THE RELATIONSHIP BETWEEN COMMUNICATION BEHAVIOR, COMMUNICATION SATISFACTION AND EFFECTIVENESS OF INTERNAL COMMUNICATIONAMONG OFFICIALS OF THE PRESIDENT OFFICE, BURAPHA UNIVERSITY

Abstract

The purposes of this research were; 1) to study a communication behavior, communication satisfaction, and effectiveness of internal communication of officials of the President Office, Burapha University, and 2) to study the relationship between communication behavior, communication satisfaction and effectiveness of internal communication among Officials of the President Office, Burapha University. The population consisted of 305 officials of the President Office, Burapha University from 14 division which was obtained by stratified random sampling using the division as a random unit. The research instruments were questionnaire. The statistics used for the data analysis were frequency, percentage, mean, standard deviation, Skewness, Kurtosis, and Pearson’s product-moment correlation coefficients. The results were that; 1) the communication behavior and effectiveness of internal communication of officials of the President Office, Burapha University at a high level, 2) the communication satisfaction of internal communication of officials of the President Office, Burapha University at a medium level, 3) the relationship between communication behavior of internal communication of officials of the President Office, Burapha University had a positive correlation with the communication satisfaction of internal communication at .01 level of significance, 4) the communication behavior of internal communication of officials of the President Office, Burapha University had a positive correlation with the effectiveness of internal communication at .01 level of significance, and 5) the communication satisfaction of internal communication of Officials of the President Office, Burapha University had a positive correlation with the effectiveness of internal communication at .01 level of significance. Suggestions from research were to supervisors should created awareness of work and used words to communicate with operators in clear, easy to understand language, which will result in higher efficiency of communication.

การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพฤติกรรมการสื่อสาร ความพึงพอใจต่อการสื่อสาร และประสิทธิผลของการสื่อสารภายในองค์กรของผู้ปฏิบัติงานสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา และ 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการสื่อสาร ความพึงพอใจต่อการสื่อสาร และประสิทธิผล ของการสื่อสารภายในองค์กรของผู้ปฏิบัติงานสังกัดสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ปฏิบัติงานสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา จำนวน 305 คน จากทั้งหมด 14 กองงาน ซึ่งใช้วิธีคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง โดยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ โดยเทียบสัดส่วนตามกองงานที่ผู้ปฏิบัติงานสังกัด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามเพื่อการวิจัย (Questionnaire) สถิติที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเบ้ ค่าความโด่งเเละค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการศึกษา พบว่า 1) พฤติกรรมการสื่อสารและประสิทธิผลของการสื่อสารภายในองค์กรของผู้ปฏิบัติงานสังกัดสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2) ความพึงพอใจ ต่อการสื่อสารภายในองค์กรของผู้ปฏิบัติงานสังกัดสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง 3) พฤติกรรมการสื่อสารภายในองค์กรของผู้ปฏิบัติงานสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความพึงพอใจต่อการสื่อสารภายในองค์กร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4) พฤติกรรมการสื่อสารภายในองค์กรของผู้ปฏิบัติงานสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา มีความสัมพันธ์ ทางบวกกับประสิทธิผลของการสื่อสารภายในองค์กร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 5) ความพึงพอใจต่อการสื่อสารภายในองค์กรของผู้ปฏิบัติงานสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา มีความสัมพันธ์ทางบวก กับประสิทธิผลของการสื่อสารภายในองค์กร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ข้อเสนอเเนะจากการวิจัย ได้เเก่ ผู้บังคับบัญชาควรสร้างจิตสำนึกในการทำงาน เเละควรใช้ถ้อยคำในการสื่อสารกับผู้ปฏิบัติงานด้วยภาษาที่ชัดเจน เข้าใจง่าย ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพของการสื่อสารสูงขึ้น