Public impact from the Highway No.3 construction project (Bang Pu district line - Bangpakong district part 5)

Abstract

The objectives of this research were to study 1) to study the Public Impact from the Highway No.3 construction project (Bang Pu District Line – Bang Pakong District Section 5) and 2) to compare the differences of personal data on the effect level. Public Impact from the Highway No.3 construction project (Bang Pu District Line – Bang Pakong District Section 5), using a quantitative study method. Data were collected by using a questionnaire from a sample of 377 people living in Bang Pakong District. Quantitative data were analyzed by descriptive statistics, mean ( ) and standard deviation, and T-test for the characteristics of the population divided into 2 groups and ANOVA statistics for 3 or more population traits at a statistical significance level of .05 or 95% confidence intervals. The results of the study found that sample population Overall, people were affected. It was at a moderate level ( =2.95) when considering each aspect, the impact was at a moderate level in all aspects. which are arranged in descending order as follows Health impact ( =2.98), environmental impact ( =2.95), economic impact ( =2.93) and social impact ( =2.93), respectively.

The people with the highest mean of the people's impact from the construction of Highway No. 3 (Bang Pu District - Bang Pakong District Section 5) at the highest level of the group were female people, people over 60 years old, people with marital status, people with a bachelor's degree or higher, people with other occupations, people with monthly income more than 50,000 baht, people with a period of stay in the community between 11-15 years, people with a residence to construction projects less than 1 km., people with the vehicles that are used tricycle side trailer, and people who frequency using Highway No. 3 (Section 5) 1 day per week.

As for the people with the lowest mean of people's impact from the construction of Highway No. 3 (Bang Pu District - Bang Pakong District Section 5) at the lowest level, were male people, people aged 41-50years, People with widowed/divorced status, people who are not studying, people who work in labor/construction, people whose monthly income does not exceed 10000 baht, people who have lived in the community between 16-20 years. , people who have residences up to construction projects more 10 kms., people who have a vehicle that is regularly used tricycle side trailer, and people with a frequency of using Highway No. 3 (Section 5) once per month.

This study was suggested to the municipality to supervise the implementation of the project to be more safe, such as adding lighting, storing construction equipment, and wanting to give the opportunity to public participation in budget auditing, increase the arrangement of the public health system in the construction area of ​​the project, and to have more supervision on cleaning rubble, soil, sand for travel safety and to prevent long-term health effects.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) เพื่อศึกษาผลกระทบของประชาชนจากโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3 (สายอำเภอบางปู – อำเภอบางปะกง ตอน 5) และ 2) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่างของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีต่อระดับผลกระทบของประชาชนจากโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3 (สายอำเภอบางปู – อำเภอบางปะกง ตอน 5) ใช้วิธีการศึกษาเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนที่อาศัยอยู่ในอำเภอบางปะกง จำนวน 377 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติพรรณา ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ T-test สำหรับคุณลักษณะของประชากรที่แบ่งได้ 2 กลุ่ม และสถิติ ANOVA สำหรับคุณลักษณะของประชากรที่แบ่งได้ 3 กลุ่มขึ้นไปที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 หรือความเชื่อมั่น 95%

ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนกลุ่มตัวอย่าง โดยภาพรวมประชาชนได้รับผลกระทบ อยู่ในระดับปานกลาง ( =2.95) เมื่อพิจารณาในรายด้านได้รับผลกระทบอยู่ในระดับปานกลางทั้งหมดทุกด้าน ซึ่งเรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ผลกระทบด้านสุขภาพ ( =2.98) ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ( =2.98) ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ( =2.93) และผลกระทบด้านสังคม ( =2.93) ตามลำดับ และประชาชนที่มีค่าเฉลี่ยผลกระทบของประชาชนจากโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3 (สายอำเภอบางปู – อำเภอบางปะกง ตอน 5) ที่อยู่ในระดับสูงที่สุดของกลุ่ม คือ ประชาชนที่มีเพศหญิง ประชาชนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ประชาชนที่มีสถานภาพสมรส ประชาชนที่มีระดับการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไป ประชาชนที่มีอาชีพอื่นๆ ประชาชนที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 50000 บาท ประชาชนที่มีระยะเวลาที่อาศัยในชุมชนระหว่าง 11-15 ปี ประชาชนที่มีที่พักอาศัยถึงโครงการก่อสร้างฯลฯ ต่ำกว่า 1 กม. ประชาชนที่มียานพาหนะที่ใช้เป็นประจำเป็นรถยนต์ส่วนตัว และประชาชนที่มีความถี่ในการใช้ทางหลวงหมายเลข 3 (ตอน 5) 1 วันต่อสัปดาห์

ส่วนประชาชนที่มีค่าเฉลี่ยผลกระทบของประชาชนจากโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3 (สายอำเภอบางปู – อำเภอบางปะกง ตอน 5) ที่อยู่ในระดับน้อยที่สุดของกลุ่ม คือ ประชาชนที่มีเพศชาย ประชาชนที่มีอายุระหว่าง 41-50 ปี ประชาชนที่มีสถานภาพหม้าย/หย่าร้าง ประชาชนที่ไม่ได้เรียนหนังสือ ประชาชนที่มีอาชีพรับจ้าง/ก่อสร้าง ประชาชนที่มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 10000 บาท ประชาชนที่มีระยะเวลาที่อาศัยในชุมชนระหว่าง 16-20 ปี ประชาชนที่มีที่พักอาศัยถึงโครงการก่อสร้าง 10 กม.ขึ้นไป ประชาชนที่มียานพาหนะที่ใช้เป็นประจำเป็นรถสามล้อพ่วงข้างตัว และประชาชนที่มีความถี่ในการใช้ทางหลวงหมายเลข 3 (ตอน 5) 1 ครั้งต่อเดือน

โดยมีข้อเสนอแนะให้ทางเทศบาลฯ กำกับการดำเนินงานของโครงการฯ ให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มไฟฟ้าส่องสว่าง การจัดเก็บอุปกรณ์ก่อสร้างให้เรียบร้อย เป็นต้น ต้องการให้มีการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบงบประมาณ เพิ่มการจัดระบบสาธารณสุขในพื้นที่ก่อสร้างของโครงการฯ และให้มีการกำกับเรื่องการทำความสะอาด เศษหิน ดิน ทราย ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง และเพื่อป้องกันผลกระทบต่อด้านสุขภาพในระยะยาว