FACTORS RELATED TO HEALTH LITERACYOF THE ROYAL THAI NAVY CONSCRIPTS CHON BURI PROVINCE

Abstract

Health literacy is the social determinant of health. The royal Thai navy conscripts become the risk group having low health literacy. The purpose of this study was to study the level of health literacy and the relationship between individual characteristic (age, education level, economic status, stress), health risk behaviors (smoking, alcohol drinking and sexual risk behavior), and the health literacy of navy conscripts in Chonburi Province. The systematic sampling was used to recruited 364 new soldiers stationed at the Marine Corps Training Center [NS] and the Combat Air Command and Coast Guard Training Center [SorRoph.] in Sattahip District, Chonburi Province. Data were collected by using self-report questionnaires consisting of Health Literacy, Smoking Behavior, Alcohol Drinking Behavior, Sexual behavior, and Stress. The data were analyzed by percentage, mean and standard deviation, and Pearson correlation coefficient. The results revealed that 48.1% of soldiers reported insufficient level of health literacy. The high insufficient components were understanding, behavior change and continuation, and interaction and questioning (54.9%, 38.7%, and 34.9%, respectively). Correlational analysis found that stress (r = -0.173), smoking behavior (r = -0.162), alcohol drinking (r = -0.268), and sexual risk behavior (r = -0.271) were negatively correlated to health literacy (p < 0.001). Economic status was positively related to health literacy (r = 0.154). Meanwhile, age, and educational level were not related to health literacy (p > 0.05). From the research results, it is suggested that conscripts with high stress and health risk behaviors tend to have low health literacy.

ความรอบรู้ด้านสุขภาพเป็นตัวบ่งชี้ทางสังคมที่มีอิทธิพลต่อภาวะสุขภาพ ทหาร กองประจำการเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการมีความรอบรู้ด้านสุขภาพต่ำ การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพและความสัมพันธ์ของคุณลักษณะส่วนบุคคล (อายุ ระดับการศึกษา ฐานะทางเศรษฐกิจ ความเครียด) พฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพ (การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ) กับความรอบรู้ด้านสุขภาพของทหารกองประจำการ กองทัพเรือในจังหวัดชลบุรี กลุ่มตัวอย่าง คือ พลทหารใหม่ กองประจำการที่ศูนย์ฝึกหน่วยนาวิกโยธิน (นย.) และศูนย์ฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ในเขตอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จำนวน 364 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างอย่างเป็นระบบ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามตอบด้วยตนเอง ประกอบด้วย แบบสอบถามความรอบรู้ด้านสุขภาพ พฤติกรรมการสูบบุหรี่ พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พฤติกรรมทางเพศ และแบบประเมินความเครียด วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่าง มีระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพในภาพรวมระดับ ไม่เพียงพอ คิดเป็นร้อยละ 48.1 โดยพบมากที่สุด ได้แก่ ด้านการเข้าใจ (ร้อยละ 54.9) รองลงมา ด้านการเปลี่ยนพฤติกรรมและการบอกต่อ (ร้อยละ 38.7) และด้านการโต้ตอบซักถาม (ร้อยละ 34.9) เมื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรอบรู้ด้านสุขภาพ พบว่า ความเครียด (r = -0.173) การสูบบุหรี่ (r = -0.162) การดื่มแอลกอฮอล์ (r = -0.268) และพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ (r = -0.271) มีความสัมพันธ์ ทางลบกับความรอบรู้ด้านสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) ฐานะทางเศรษฐกิจ มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความรอบรู้ด้านสุขภาพ มีนัยสำคัญทางสถิติ (r = 0.154) ส่วนอายุ และระดับการศึกษา ไม่มีความสัมพันธ์กับความรอบรู้ด้านสุขภาพ (p > 0.05) ​ จากผลการวิจัยมีข้อเสนอแนะว่า ทหารกองประจำการที่มีความเครียด มีพฤติกรรมเสี่ยง ทางสุขภาพจะมีแนวโน้มที่จะมีความรอบรู้ด้านสุขภาพต่ำ