FACTORS PREDICTING PRECONCEPTIVE NUTRITIONAL PREPARATION BEHAVIOR IN PREGNANT WOMEN WITH ANEMIA

Abstract

Preconceptive nutritional preparation behavior can prevent anemia pregnancy. This predictive research aimed to explore preconceptive nutritional preparation behavior, and examine predicting factors of this behavior in pregnant women with anemia. A simple random sampling was used to recruit a sample of 180 pregnant women with anemia visiting antenatal care clinic at hospitals in public health region 3. Research instruments composed of preconceptive nutritional preparation behavior, perceived risk of anemia in pregnancy, perceived severity of anemia pregnancy, perceived benefit of preconceptive nutritional preparation behavior, perceived barriers of preconceptive nutritional preparation behavior, and nutritional knowledge questionnaires. Cronbach's alpha coefficient of these questionnaires were .71, .77, .89, .91, .94 and .75, respectively. Data were analyzed by using descriptive statistics, and stepwise multiple regression statistics.

The results showed that participants had moderate mean scores of preconceptive nutritional preparation behavior (M = 32.68, SD = 8.29) Factors predicting preconceptive nutritional preparation behavior were nutritional knowledge (β = .278, p < .001), perceived risk of anemia in pregnancy (β = .268, p < .001), and perceived barriers of preconceptive nutritional preparation behavior (β = .176, p < .05). They explained 22% of the variance in preconceptive nutritional preparation behavior findings recommend that maternity nurses should educate reproductive women about nutrition for prevention anemia and encourage them to perceive their risks of anemia in pregnancy, as well as, decrease their obstacles to perform preconceptive nutritional preparation behavior.

การเตรียมความพร้อมด้านโภชนาการก่อนตั้งครรภ์ สามารถป้องกันภาวะโลหิตจางขณะตั้งครรภ์ได้ การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเตรียมความพร้อมด้านโภชนาการก่อนตั้งครรภ์ และปัจจัยทำนายพฤติกรรมในหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจาง กลุ่มตัวอย่าง คือ หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจางขณะตั้งครรภ์ และมารับบริการฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลในเขตพื้นสุขภาพที่ 3 จำนวน 180 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถามพฤติกรรมการเตรียมความพร้อมด้านโภชนาการก่อนตั้งครรภ์ แบบสอบถามการรับรู้ความเสี่ยงของภาวะโลหิตจางขณะตั้งครรภ์ แบบสอบถามการรับรู้ความรุนแรงของภาวะโลหิตจางขณะตั้งครรภ์ แบบสอบถามการรับรู้ประโยชน์ของการเตรียมความพร้อมด้านโภชนาการก่อนตั้งครรภ์ แบบสอบถามการรับรู้อุปสรรคของการเตรียมความพร้อมด้านโภชนาการก่อนตั้งครรภ์ และ แบบสอบถามความรู้ด้านโภชนาการ มีค่า Cronbach’s alpha coefficient เท่ากับ .71, .77, .89, .91, .94 และ .75 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติการถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน

ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ยพฤติกรรมการเตรียมความพร้อมด้านโภชนาการก่อนตั้งครรภ์โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (M = 32.68, SD = 8.29) ปัจจัยด้านความรู้ด้านโภชนาการ (β = .278, p < .001) การรับรู้ความเสี่ยงของภาวะโลหิตจางขณะตั้งครรภ์ (β = .268, p < .001) และการรับรู้อุปสรรคของการเตรียมความพร้อมด้านโภชนาการ (β = .176, p < .05) สามารถร่วมกันทำนายพฤติกรรมการเตรียมความพร้อมด้านโภชนาการก่อนตั้งครรภ์ได้ร้อยละ 22.22 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 (F = 16.69, p < .001) ผลการวิจัยครั้งนี้พยาบาลผดุงครรภ์สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการให้ความรู้ด้านโภชนาการแก่หญิงวัยเจริญพันธุ์ ส่งเสริมการรับรู้ความเสี่ยงของภาวะโลหิตจางขณะตั้งครรภ์ และลดอุปสรรคที่จะขัดขวางพฤติกรรมการเตรียมความพร้อมด้านโภชนาการก่อนการตั้งครรภ์