The Influence of Leadership on the Organization Commitment of the Employees Working for Japanese Companies in Amata City, Chonburi

Abstract

The research of “The Influence of Leadership on the Organization Commitment of the Employees Working for Japanese Companies in Amata City, Chonburi” aims to study the relationship between Leadership styles according to Bass and Avolio (1994)’s concept including Transformational, Transactional, and Laissez-faire leadership and 3 types of Organization Commitment including Affective Commitment, Normative Commitment, and Continuance Commitment (Allen & Meyer, 1990.)

This is a Survey Research collecting the information with the set of questionnaires. The target is the employees working in large-size Japanese companies located in Amata City, Chonburi totally 400 participants, and all the collected data will be analyzed by using SPSS program.

According to the analysis, we found that most of the participants perceived the Transformational Leadership from their supervisors/or managers considered as 62.7% while perceiving Laissez-Faire Leadership for 21.3%, and Transactional Leadership for 16%. The result of analysis reveals that there’s the relationship between these 3 leadership styles including Transformational, Transactional, and Laissez-Faire leadership and the 3 Organization Commitment including Affective, Continuance, and Normative Commitment significantly at .05.

From the analysis of the relationship between these 3 Leadership Styles and 3 Organization Commitment, we found that when the employees perceived the Transformational and Transactional Leadership, most of them had the high-level of Affective and Normative Commitment while having average-level of Continuance Commitment. We can conclude from this research that there’s the positive relationship between the Transformational and Transactional leadership and the Affective and Normative Commitment. When most of them perceive the Transformational and Transactional leadership, their affective and normative commitment level raise up accordingly whereas their Continuance Commitment remains in the average level.

However, when employees perceive the Laissez-Faire leadership, there’s lower-level of Affective and Normative commitment while most of them have average-level of Continuance Commitment. We can conclude from this research that Laissez-Faire leadership has the negative relationship with the Affective and Normative Commitment since when the employees perceive most of Laissez-Faire leadership, their Affective and Normative Commitment gets lower whereas their Continuance Commitment remains in the average-level.

การวิจัยเรื่อง “อิทธิพลของภาวะผู้นำต่อความผูกพันองค์กรของพนักงานบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม อมตะ ซิตี้ ชลบุรี” เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ของพฤติกรรมภาวะผู้นำตามแนวคิดของ Bass and Avolio (1994) ที่ประกอบด้วยพฤติกรรมภาวะผู้นำแบบสร้างความเปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership) ภาวะผู้นำแบบแลกเปลี่ยน (Transactional Leadership) และภาวะผู้นำแบบปล่อยตามสบาย (Laissez-Faire Leadership) กับความผูกพันองค์กรทั้ง 3 ด้านประกอบด้วย ความผูกพันองค์กรด้านจิตใจ ด้านบรรทัดฐาน และด้านการคงอยู่ ตามแนวคิดของ Allen and Meyer (1990)

การวิจัยนี้เป็นแบบเชิงปริมาณด้วยการสำรวจ (Survey Research) และใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยทำการศึกษาพนักงานที่ปฏิบัติงานในบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ชลบุรี จำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 400 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม และทำการวิเคราะห์ประมวลผลด้วยโปรแกรมทางสถิติ SPSS

ผลจากการวิเคราะห์พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่รับรู้ภาวะเป็นผู้นำแบบสร้างความเปลี่ยนแปลงของหัวหน้างาน คิดเป็นร้อยละ 62.7 รองลงมาคือภาวะผู้นำแบบปล่อยตามสบาย คิดเป็นร้อยละ 21.3 และภาวะผู้นำแบบแลกเปลี่ยน คิดเป็นร้อยละ 16 ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ความเป็นผู้นำของหัวหน้างานแบบสร้างความเปลี่ยนแปลง แบบแลกเปลี่ยน และแบบปล่อยตามสบายมีความสัมพันธ์กับความผูกพันองค์กรด้านจิตใจ ด้านบรรทัดฐาน และด้านการคงอยู่ ของพนักงานในบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ชลบุรี ที่ระดับนัยสำคัญ .05

จากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของภาวะผู้นำทั้ง 3 รูปแบบกับความผูกพันองค์กรทั้ง 3 ด้าน พบว่า เมื่อพนักงานรับรู้ถึงภาวะผู้นำแบบสร้างความเปลี่ยนแปลง และแบบแลกเปลี่ยน พนักงานส่วนใหญ่จะมีความผูกพันองค์กรด้านจิตใจและด้านบรรทัดฐานในระดับมาก และส่วนใหญ่มีความผูกพันองค์กรด้านการคงอยู่ในระดับกลาง โดยสรุปได้จากงานวิจัยนี้ว่า ภาวะผู้นำแบบสร้างความเปลี่ยนแปลง และแบบแลกเปลี่ยน มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความผูกพันองค์กรด้านจิตใจและด้านบรรทัดฐาน เนื่องจากส่วนใหญ่เมื่อมีการรับรู้ภาวะผู้นำทั้งสองแบบมาก ความผูกพันองค์กรของพนักงานด้านจิตใจและด้านบรรทัดฐานก็จะมีมากขึ้นไปด้วย ในขณะที่ความผูกพันองค์กรด้านการคงอยู่ของพนักงานยังคงอยู่ในระดับกลางเป็นส่วนใหญ่ เมื่อมีการรับรู้ภาวะผู้นำแบบสร้างความเปลี่ยนแปลง และแบบแลกเปลี่ยนมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อพนักงานรับรู้ถึงภาวะผู้นำแบบปล่อยตามสบาย พนักงานส่วนใหญ่จะมีความผูกพันองค์กรด้านจิตใจและด้านบรรทัดฐานในระดับต่ำ และส่วนใหญ่มีความผูกพันองค์กรด้านการคงอยู่ในระดับกลาง โดยสรุปได้จากงานวิจัยนี้ว่า ภาวะผู้นำแบบปล่อยตามสบาย มีความสัมพันธ์เชิงลบกับความผูกพันองค์กรด้านจิตใจและด้านบรรทัดฐาน เนื่องจากส่วนใหญ่เมื่อมีการรับรู้ภาวะผู้นำแบบปล่อยตามสบายมาก ความผูกพันองค์กรของพนักงานด้านจิตใจและด้านบรรทัดฐานก็จะอยู่ในระดับต่ำลงไปด้วย ในขณะที่ความผูกพันองค์กรด้านการคงอยู่ของพนักงานยังคงอยู่ในระดับกลางเป็นส่วนใหญ่ เมื่อมีการรับรู้ภาวะผู้นำแบบปล่อยตามสบายมาก